วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

 แก้ไขตัวอักษรแล้วนะคะ แต่ต้องเลื่อนไปด้านข้างหน่อย ^^'
10เหมือนไปไหม ?
เพื่อนๆลองช่วยดูหน่อยว่ามันเหมือนไปไหม 5555
9พ่อแก้ว แม่แก้ว!!!
ไม่รู้ว่าจะขำหรือสงสารก่อนดีสำหรับคุณตำรวจโชคร้ายรายนี้ก่อนกันเลยจริงๆ
8เอามาได้ไง!!
จริงๆคำถามควรจะเป็น "ใครปล่อยให้มันเอามา" มากกว่า ฮาฮา
7ไม่เข้าใจ ?
ทีมงาน Toptenthailand.com อยากทราบว่ากระบวนการนี้มันก่อให้เกิดอะไรครับ -*- ใครทราบบอกที
6สุดยอดสปิริต!!!
จริงๆผมว่าเจ๊ขอเวลานอกก่อนดีไหมครับ ถึงจะได้แชมท์ แต่ถ้ารับลูกนี้แล้วกลิ้งล้ม กลัวเจ๊จะดังไปตลอดนะครับ :P
5ใคร!!!!!
ผมอยากทราบว่าใครปล่อยข่าวลือว่าโคลนลดความอ้วนได้ครับ!!!!
4อาย!!
คาดว่าคุณป้า 2 คนนี้คงกลัวคนรู้จักเจอตอนมาเดินอาบแดดที่ชายหาดเป็นแน่แท้ แต่ใจรักก็เลยต้องหาวิธีป้องกัน กันหน่อย ฮาฮา
3เอายังงี้เลยนะ
ไม่รู้ว่าพี่แกหลงทางหรือยังไง จะว่าหลงก็คงไม่ใช่ เพราะมันไม่มี ถนนนะตัว!!!
2พยายามมาก!!
จริงๆพอเห็นภาพนี้ ทีมงาน Toptenthailand.com แอบคิดว่าทำใมคนเราความพยายามมันสูงส่งถึงเพียงนี้ ฮาฮาขอชื่มชม Gang นี้จริงๆเลยครับบบบทำงานกันเป็นทีมดีมากกกกก
1กินเข้าไปซะ !!!
พอเห็นภาพนี้แว็บแรก ทีมงาน Toptenthailand.com อดที่จะอมยิ้มไม่ได้เลยจริงๆ เจ้าส้มคงจะเป็นขาใหญ่แน่ๆ ฮาฮา


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=2236625#ixzz1U57QzKzC
าวๆ ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าหนุ่มๆ นั้นเฝ้ารอที่จะเจอสาวในฝันที่จะต้องสวยน่ารักเพอร์เฟ็กต์ไปซะทุกๆ ด้านเหมือนกับ "นางฟ้า" ... แต่ในความเป็นจริงแล้วบางครั้งความเพอร์เฟ็กต์ของนางฟ้าที่หนุ่มๆ ต้องการนั้นอาจไม่ได้ขึ้นอยู่ที่รูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียวหรอกค่ะ แต่มันขึ้นอยู่กับ "นิสัย" ของสาวๆ ในที่หนุ่มๆ เค้าใฝ่ฝันต่างหาก
     เพราะถ้าหากจะคบกันจริงจังแล้ว ความสวยงามนั้นเป็นเพียงสิ่งที่น่าจับต้องและน่าหลงใหล แต่ผู้หญิงที่นิสัยโดนใจหนุ่มๆ นี่สิคะ เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้หญิงคนนั้นดูน่าสนใจมากกว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกเสียอีก
     แล้วสาวๆ แสนดีที่หนุ่มๆ เค้าใฝ่ฝันจะเป็นยังไงบ้างนะ ...

     1. ดูแลตัวเองได้ (ในเวลาที่จำเป็น) ... หรือจะพูดง่ายๆ ก็คือสามารถใช้ชีวิตด้วยตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องเป็นภาระซึ่งกันและกัน สามารถรับผิดชอบตัวเองได้ในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องร่วมกันตัดสินใจ เช่น เรื่องกิจวัตรประจำวันต่างๆ เพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่ที่จะต้องทำในแต่ละวัน เราสามารถแชร์เรื่องราวเหล่านั้นซึ่งกันและกันได้ แต่ไม่ต้องให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ที่จะต้องดูแลอยู่ฝ่ายเดียว นอกจากนี้ยังรวมไปถึงเรื่องของการใช้ชีวิตที่อิสระ อยู่กับเพื่อนบ้าง กับครอบครัวบ้าง และอยู่ด้วยกันบ้าง ก็แค่นั้นเอง
     2. ไม่ต้องคอยตามตลอดเวลา ... ไม่จุกจิกจู้จี้ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่าง ต้องไปกินข้าวเย็นด้วยกันทุกวัน หรือต้องรอให้อีกฝ่ายชวนไปเดท สาวๆ ที่มีนิสัยเช่นนี้ส่วนใหญ่ มักจะคิดว่า หากเป็นฝ่ายเรียกร้อง ก็จะไม่มีวันรู้ว่าหนุ่มๆ คิดถึงเรา และอยากอยู่กับเราตอนไหน ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหากับหนุ่มๆ และทำให้หนุ่มๆ สบายใจที่จะอยู่ด้วย จำไว้นะคะว่าหนุ่มๆ ชอบที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อนค่ะ อย่าไปไล่ตามเค้าให้เหนื่อยเลย 

     3. ทำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่น่าประทับใจ ... เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้หนุ่มๆ รู้ได้ว่าเราใส่ใจและห่วงใจเขา เช่น การซื้อเค้กร้านโปรดมาฝาก ซื้อยามาให้เมื่อเห็นว่าเค้าเริ่มมีอาการไม่สบาย โทรปลุกตอนเช้า ฯลฯ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ล่ะค่ะที่เป็นสิ่งที่แสดงออกให้เค้ารู้ว่าเราห่วงใย และอยากที่จะดูแลเค้า
     4. เสริมสร้างความมั่นใจให้กับหนุ่มๆ ได้ ... เราต้องคอยเป็นคนที่สนับสนุนให้หนุ่มๆ ได้พัฒนาบุคลิกให้เป็นไปในทางทีดีขึ้น คอยให้กำลังใจและให้คำปรึกษาเมื่อเค้าต้องการขอความเห็นในเรื่องต่างๆ วิธีนี้จะช่วยให้เค้ารู้สึกมั่นใจและกล้าที่จะทำสิ่งต่างๆ มากขึ้น (แต่ต้องระวังไว้นิดนึงด้วยนะคะ เรามีหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา ไม่ใช่ออกคำสั่งนะคะ ...)

     5. ไม่สร้างความเครียด ... การที่จะอยู่กับใครซักคนนึง นั่นก็หมายความว่าคนคนนั้นเป็นคนที่ทำให้เราสบายใจเวลาอยู่ด้วย แต่ถ้าหากอยู่ด้วยกันแล้วสร้างแต่ความกดดันและความเครียดก็คงไม่มีใครอยากดูด้วยหรอกค่ะ ต่อให้เค้าคนนั้นเป็นคนมองโลกในแง่ดีแค่ไหน ก็คงไม่มีทางทนอยู่กับความรู้สึกกดดันแบบนั้นได้หรอกค่ะ

     6. ไม่ทำพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ ... การพูดจาหยาบคาย กระทบกระเทียบ หรือให้ร้ายคนอื่น สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่จะทำให้คุณค่าในตัวของสาวๆ ลดลง แถมยังเป็นพฤติกรรมที่ไม่ว่าหนุ่มๆ คนไหนเห็นแล้วต่างก็เอือมระอา แน่นอนค่ะว่าถ้าสาวคนไหนมีพฤติกรรมแบบนี้ล่ะก็ คะแนนความมีเสน่หาติดลบไปอย่างรวดเร็ว อย่างที่เธอไม่เคยคาดคิดเลยล่ะค่ะ
     7. มองโลกในแง่ดี เป็นผู้หญิงคิดบวก ... เพราะทัศนคติที่ดีจะนำพามาซึ่งการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และสดใจได้ตลอดเวลา ไม่ว่าใครเข้ามาอยู่ใกล้ก็จะรู้สึกว่าอยู่ด้วยแล้วสบายใจ ไม่ต้องมาคอยระวังว่าใครจะจับผิดหรือคิดไม่ดี การเป็นผู้หญิงคิดบวกนอกจากจะทำให้เรามีความสุขกับชีวิตแล้ว คนที่อยู่ใกล้เราเค้าก็จะมีความสุขไปกับเราด้วยล่ะค่ะ 
     8. รักอย่างเดียวไม่พอ ต้องเข้าใจกันด้วย ... เข้าใจในตัวตรของอีกฝ่าย และยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น สิ่งนั้นจะทำให้อยู่ด้วยกันได้ด้วยความเข้าใจ ไม่จำเป็นหรอกค่ะว่าคนที่เป็นคู่รักกันต้องมีคิดอะไร ทำอะไรเหมือนกันทุกๆ อย่าง แค่เข้าใจในความต้องการของอีกฝ่าย ยอมรับฝังความคิดเห็น และไม่พยายามเปลี่ยนตัวตรของเค้า สิ่งนี้ต่างหากค่ะที่จะทำให้อยู่ด้วยกันได้

     เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็อาจจะเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้สาวๆ ดูน่าสนใจมากขึ้น (ในตอนแรก) แต่นิสัยที่ดีและความเข้าใจต่างหากที่จะทำให้คนสองคนอยู่ด้วยกันได้ ยังไงลองนำนิสัย 8 ข้อนี้ไปพิจารณาดูนะคะว่า เราต้องปรับข้อไหนบ้าง ... บางครั้งการเป็นนางฟ้ามันก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดหรอกค่ะ


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/content/girl/25602/8-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A2-%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%86-.php#ixzz1U56sCvpL

7สิ่งมหัศจรรย์ของโลก

สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... ตอนนี้โลกของเรากำลังมีแคมเปญหนึ่งซึ่งสำคัญมากๆ นั่นก็คือ New 7 Wonders of Nature คือการค้นหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่นั่นเอง จะว่าไปแล้ว น้องๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินแคมเปญนี้ นั่นก็เพราะ 28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายมานั้น ไม่มีของไทยเลยแม้แต่ที่เดียว T_T
           แต่ไม่เป็นไรค่ะ ไม่มีของไทยก็ไม่เป็นไร แต่ก่อนอื่น พี่เป้ อยากจะอาสาพาน้องๆ ไปทำความรู้จักกับ 28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละที่น่าสนใจยังไง และมีที่ไหนที่เข้าตาบ้าง

1. Amazon / South Americaคงไม่มีใครไม่รู้จัก "ป่าอะเมซอน" ที่กินพื้นที่ 7 ล้านตารางกิโลเมตร น้องๆ อาจจะสงสัยว่าใหญ่ขนาดไหน บอกได้เลยว่าใหญ่กว่าประเทศไทยประมาณ 13 เท่า !! โดยป่าอะเมซอนกินพื้นที่ 2 ใน 5 ของทวีปอเมริกาใต้ มีพื้นที่อยู่ในบราซิล โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เฟรนช์เกียนา เปรู สุรินาเม เวเนซูเอลา และกายอานา นอกจากความอุดมสมบูรณ์ของป่าที่เป็นที่เลื่องลือแล้ว ในป่าแห่งนี้ยังมีสัตว์มากมายหลายชนิด ที่โด่งดังคงไม่มีใครเกินปลาปิรันยาที่เป็นปลาที่ดุร้ายที่สุดในโลก และงูยักษ์อนาคอนดาที่ยาวกว่า 13 เมตร !


2. Angel Falls / Venezuelaหรือ "น้ำตกเองเจล" ถูกค้นพบในปี 1935 เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่กลางป่าดงดิบในประเทศเวเนซูเอลาและได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในโลก เพราะมีความสูงเกือบ 1 กิโลเมตรเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมน้ำตกนี้ได้ทางเรือและทางเครื่องบินเท่านั้น ความพิเศษของน้ำตกนี้คือ น้ำไม่สามารถตกถึงพื้นได้ เนื่องจากเป็นน้ำตกที่สูงมาก ทำให้น้ำกลายเป็นหมอกไปหมดซะก่อนจะตกถึงพื้น จึงทำให้พื้นที่บริเวณนี้มีหมอกหนาปกคลุมตลอดเวลา
เด็กดีดอทคอม ::  ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่

3. Bay of Fundy / Canada"อ่าวฟันดี้" ได้ชื่อว่าเป็นอ่าวที่มีระดับน้ำขึ้นที่สูงที่สุดในโลก คือเวลาที่น้ำขึ้น ปริมาณน้ำจะสูงขึ้นถึง 16.2 เมตร รวมถึงมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าและออกจากอ่าวมากกว่า 100 พันล้านตันต่อวัน ! (เยอะว่าปริมาณน้ำจืดทั่วโลกรวมกัน) การมีกระแสน้ำขึ้นน้ำลงที่รุนแรง ทำให้เกิดลักษณะนิเวศวิทยาทางทะเลแบบเฉพาะตัวและทำให้หินชายฝั่งมีรูปแบบหลากหลาย


4. Black Forest / Germany"ป่าดำ" แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมันติดกับเขตสวิตเซอร์แลนด์ เป็นป่าที่มีแนวภูเขาและต้นไม้หนาทึบจนดูมืดไปหมด หากมองจากภายนอกอาจจะดูมืดๆ น่ากลัว แต่ภายในป่ามีน้ำตก หน้าผา ลำธาร และเมืองเล็กๆ และที่นี่แหละที่เป็นต้นกำเนิดของเค้ก Black Forest นั่นเอง (ต้องเคยได้ยินกันใช่มั้ย)


5. Bu Tinah Island / United Arab Emirates"เกาะบูตินาห์" ตั้งอยู่ในเมืองอาบูดาบี เมืองหลวงสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือเป็นเกาะที่เป็นสมบัติของธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์และไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์ ลักษณะภูมิอากาศบริเวณนี้เป็นแบบศูนย์สูตร และมีภูมิประเทศหลากหลายทั้งแน้ำตื้น หญ้าทะเล ป่าชายเลน รวมถึงแนวปะการัง มีสิ่งมีชีวิตทางทะเลที่ เช่น นกฟลามิงโก้ ปลาโลมา นกเหยี่ยวรวมถึงยังเป็นเกาะที่ได้ชื่อว่ามีฝูงพะยูนมากเป็นอันดับสองของโลก


6. Cliffs of Moher / Ireland"ผาชันโมเออร์" ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังมากที่สุดแห่งหนึ่งของไอร์แลนด์ เป็นผาชันสูง 230 เมตรริมมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดจากหินทรายและหินดินดานที่มีอายุเก่าแก่ โดยหินที่เก่าแก่มากที่สุดนั้นมีอายุถึง 300 ล้านปี และมีแนวผาทอดยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมคือการเดินเลียบขอบผาที่สูงชันแห่งนี้


7. Dead Sea / Isarel , Jordan , Palestine
"ทะเลเดดซี" เป็นทะเลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง กินพื้นที่ในประเทศอิสราเอล จอร์แดน และปาเลสไตน์ เป็นทะเลน้ำเค็มที่มีความเข้มข้นของเกลือสูงมากและอยู่ในระดับต่ำกว่าน้ำทะเลมาก ด้วยความเค็มกว่าทะเลปกติถึง 6 เท่า ทำให้ไม่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ในทะล รวมถึงมนุษย์สามารถลงไปนอนลอยเล่นในทะเลได้โดยไม่มีวันจม นอกจากนี้ โคลนในทะเลเดดซีได้ชื่อว่าเป็นโคลนที่มีสรรพคุณทางด้านสุขภาพและความงาม ทำให้มีคนขุดและนำมาบรรจุขายกันเป็นจำนวนมาก


8. El Yunque / Puerto Rico
เป็นวนอุทยานแห่งชาติในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเปอเตอริโก โดยชื่อ El Yunque เป็นภาษาสเปนแปลว่าดินแดนสีขาว นอกจากนี้ยังเป็นที่รู้จักในชื่อป่าอุทยานแห่งชาติแคริบเบียนอีกด้วย ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นป่าดิบชื้นที่สวยที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง และมีสัตว์ป่าหายากมากมาย เช่น นกแก้วพันธุ์เปอร์โตริกัน


9. Galapagos / Ecuadorน้องๆ คงคุ้นชื่อของ "หมู่เกาะกาลาปาโกส" กันเป็นอย่างดี เป็นหมู่เกาะกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่อยู่ในพื้นที่ของประเทศเอกวาดอร์ที่เกิดจากการสะสมตัวของลาวาจากภูเขาไฟเมื่อ 7-9 ล้านปีมาแล้ว หมู่เกาะกาลาปาโกสประกอบด้วยเกาะใหญ่ 5 เกาะ เกาะขนาดกลาง 8 เกาะ และเกาะเล็กอีก 6 เกาะ พร้อมเกาะแก่งเล็ก ๆ หรือโขดหินกลางทะเลอีกประมาณ 40 แห่ง โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 7,994 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ในทะเล 59,500 ตารางกิโลเมตร แต่ด้วยสภาพของระบบนิเวศที่สัตว์โดนจับไปจนเกือบสูญพันธุ์ ทำให้ถูกเสนอเป็นแหล่งมรดกโลกและจัดให้อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตราย


10. Grand Canyon / USA"แกรนด์แคนยอน" เป็นดินแดนหินผาและหุบเหว ซึ่งหน้าผามีความสูงถึง 1,600 เมตร อยู่ในทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ในอดีตแม่น้ำโคโลราโดได้ไหลคดเคี้ยวตามที่ราบกว้างใหญ่ที่อยู่ระดับเดียวกับน้ำทะเล ต่อมาพื้นโลกเริ่มยกตัวสูงขึ้นเนื่องมาจากแรงดันและความร้อนอันมหาศาลภายใต้พื้นโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปและกลายเป็นแนวหน้าผากว้างใหญ่คือแกรนด์แคนยอนนี่เอง


11. Great Barrier Reef / Australiaชื่อของ "Great Barrier Reef (เกรตแบร์ริเออร์รีฟ)" หรือแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลกคงค้างคาอยู่ในสมองของน้องๆ จากวิชาสังคมศึกษา เพราะนี่คือแนวปะการังที่ยาวกว่า 2,000 กิโลเมตรในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย  ถือเป็นโครงสร้างที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้แก่ ฟองน้ำ 10,000 ชนิด ปะการัง 350 ชนิด หอย 4,000 ชนิด ดาวทะเลและซีเออร์ชิน (Sea Urchin) ซึ่งเป็นสัตว์ประเภทคล้ายหอย 350 ชนิด และปลามากกว่า 1,500 ชนิด


12. Halong Bay / Vietnam"ฮาลองเบย์" หรืออ่าวฮาลอง เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ยวในประเทศเวียดนาม โดยอยู่ห่างจากเมืองฮายอนไปประมาณ 170 กิโลเมตร ในอ่าวฮาลองแห่งนี้มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล เกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณอ่าว 2 เกาะ คือเกาะกัดบา และเกาะ Tuan Chau ทั้งสองเกาะนี้มีคนตั้งถิ่นฐานอยู่อย่างถาวร บนเกาะมีโรงแรมและชายหาดจำนวนมากคอยให้บริการนักท่องเที่ยว ส่วนเกาะขนาดเล็กอื่นๆบางเกาะก็มีชายหาดที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชม บางเกาะเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวประมง และบางเกาะยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์หลายชนิดอีกด้วย


13. Iguazu Falls / Argentina , Brazil"น้ำตกอีกัวซู" เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนของอาร์เจนตินาและบราซิล มีความสูงตั้งแต่62-82 เมตร และมีความยาวทั้งสิ้นเกือบ 3 กิโลเมตร ตำนานของน้ำตกนี้กล่าวไว้ว่า มีพระเจ้าองค์หนึ่งตั้งใจจะแต่งงานกับสาวพื้นเมืองคนหนึ่ง แต่ฝ่ายหญิงดันล่องเรือหนีไปกับชู้ ทำให้พระเจ้าทรงพิโรธและตัดแม่น้ำออกเป็นน้ำตกใหญ่มหึมาและสาปแช่งให้คนทั้งคู่ตกลงไป


14. Jeita Grotto / Lebanonถูกค้นพบในปี 1836 เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองเบรุต เมืองหลวงประเทศเลบานอน โดยถ้ำนี้มีความยาวกว่า 9 กิโลเมตรและมีจุดเชื่อมกับแม่น้ำใต้ดิน ในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่หลากหลายทั้งรูปทรงและสีสัน รวมถึงมีหินงอกที่ใหญ่ที่สุดในโลกความสูงกว่า 8.20 เมตรอยู่ด้วย ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมถ้ำนี้ปีละประมาณสามแสนคน


15. Jejudo Island / South Korea"เกาะเชจู" ที่คอซีรีส์เกาหลีคงรู้จักกันดีแห่งนี้ เป็นเกาะภูเขาไฟและเมืองตากอากาศของเกาหลีใต้ โดยอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ 130 กิโลเมตร บนเกาะนี้มีภูเขาไฟฮัลลาซานซึ่งเป็นภูเขาไฟสูง 1,950 เมตรที่ดับแล้วตั้งอยู่ เกาะเชจูได้รับจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ "เกาะเชจูและถ้ำลาวา" ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 31 ที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์


16. Kilimanjaro / Tanzania"ยอดเขาคิลิมันจาโร" ซึ่งมีความหมายว่าภูเขาที่ทอแสงแวววาว ตั้งอยู่ในเขตประเทศแทนซาเนียในทวีปแอฟริกา เป็นภูเขาไฟยอดเดี่ยวที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงเกือบ 6 กิโลเมตร และบริเวณยอดเขา ยังประกอบด้วยอดเขาขนาดใหญ่อีก 3 ยอดคือ ยอดคีโบ ยอดมาเวนซี และยอดชีรา นอกจากนี้ บริเวณยอดเขามีธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ยาวกว่า 4,500 เมตร เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา และเป็นเพียงภูเขาไม่กี่ลูกในแอฟริกาที่มีธารน้ำแข็ง


17. Komodo / Indonesia
"หมู่เกาะโคโมโด" เป็นอุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซียที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนกลายเป็นเกาะ มีชื่อเสียงในเรื่องเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำและมีสัตว์ทะเลอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น ปลาพระอาทิตย์ กระเบนราหู ทากเปลือย เพรียงหัวหอม และที่สำคัญ ที่เกาะแห่งนี้มีสัตว์ชนิดหนึ่งซึ่งสืบทอดบรรพบุรุษมาจากไดโนเสาร์นั่นก็คือมังกรโคโมโด ใครอยากเห็นรูปลองเซิร์ชดูกันเองได้เลย (เห็นแล้วอย่าคิดว่าเป็นตัวอื่นล่ะ)


18. Maldives / Maldivesเรียกได้ว่า "หมู่เกาะมัลดีฟส์" เป็นธรรมชาติทางทะเลที่สวยและดังที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย มีเกาะต่างๆ รวม 1,190 เกาะ แต่มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ 200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ ภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ย 27 – 30 องศาเซลเซียส ใต้ท้องทะเลมัลดีฟส์เป็นโลกของสัตว์น้ำอันน่าตื่นตาตื่นใจและไม่มีพิษภัย รวมถึงเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุดของนักดำน้ำจากทั่วโลกอีกด้วย


19. Masurian Lake District / Poland"ทะเลสาปเมซูเรียน" เป็นทะเลสาบบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศโปแลนด์ ประกอบด้วยทะเลสาบเล็กๆ กว่า 2,000 แห่งที่เกิดจากธารน้ำแข็งเมื่อหมื่นปีมาแล้ว มีพื้นที่รวมกว่า 52,000 ตารางกิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปได้ทั้งทางรถไฟ รถบัส และรถยนต์ กิจกรรมยอดนิยมได้แก่ การเล่นเรือใบ การพายเรือคะยัก การว่ายน้ำ


20. Matterhorn - Cervino / Italy, Switzerland
"ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น" เป็นภูเขาที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ซึ่งอยู่บริเวณพรมแดนประเทศอิตาลีและสวิตเซอร์แลนด์ มีความสูง 4,478 เมตรทำให้กลายเป็นภูเขาที่สูงที่สุดลูกหนึ่งในเทือกเขาแอลป์และมีหิมะปกคลุมตลอดปี น้องๆ คนไหนนึกหน้าตาของภูเขาแมตเตอร์ฮอร์นไม่ออก ก็ให้นึกถึงช็อกโกแลตยี่ห้อ Toblerone ที่ห่อสีเหลืองๆ จะมีโลโก้รูปภูเขาอยู่ นั่นแหละ ภูเขาแมตเตอร์ฮอร์น
เด็กดีดอทคอม ::  ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่

21. Milford Sound / New Zealandเป็นผืนน้ำส่วนเว้าของทะเลทาสมันที่อยู่ทางทางใต้ของเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาที่แคบและหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็ง ต่อมาธารน้ำแข็งละลายกลายเป็นผืนน้ำแห่งนี้ กิจกรรมยอดฮิตคือการล่องเรือชมผืนน้ำและหน้าผาโดยรอบ นอกจากนี้บริเวณนี้ยังเป็นที่อยู่ของสัตว์สุดน่ารักอย่างแมวน้ำอีกด้วย
เด็กดีดอทคอม ::  ตามหา 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่

22. Mud Volcanoes / Azerbaijan"ภูเขาไฟโคลน" แห่งนี้ เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟใต้ทะเลแคสเปียนในประเทศอาเซอร์ไบจาน โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิตเพราะมีคำเตือนจึงทำให้อพยพคนได้ทัน แต่สิ่งที่ตามมาคือ ได้เกิดภูเขาไฟโคลนหรือโคลนเหลวที่เกิดขณะมีการปะทุของภูเขาไฟ โดยค่อยๆ โป่งนูนขึ้นมาและขยายใหญ่ขึ้นจากแรงดันด้านล่าง มีกลิ่นเหม็น รวมถึงมีการระเหยของก๊าซหลายชนิดที่ติดไฟง่าย ดังนั้นจึงถือเป็นสถานที่อันตราย แต่ด้วยความสวยงามและน่าอัศจรรย์ จึงถูกจัดเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติกับเค้าด้วย


23. PP Underground River / Philippinesหรือที่มีชื่อเต็มว่า "The Puerto Princesa Subterranean River National Park" หรืออุทยานแห่งชาติแม่น้ำใต้ดินปวยร์โต-ปรินเซซา ตั้งอยู่ที่เกาะปาลาวัน ประเทศฟิลิปปินส์ ที่แห่งนี้เป็นแม่น้ำใต้ดินที่มีความยาวที่สุดในโลกที่ไหลผ่านถ้ำลงสู่ทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ในบริเวณนั้นยังมีหน้าผาที่เกิดจากหินปูนยาวกว่า 8 กิโลเมตร กิจกรรมยอดนิยมของนักท่องเที่ยวคือการล่องเรือชมความงามของถ้ำที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อย


24. Sundarbans / India , Bangladesh"ซันเดอร์บันส์" เป็นป่าโกงกางขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่กินพื้นที่ในประเทศอินเดียและบังกลาเทศ ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำคงคา ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตร ชื่อป่านี้เป็นภาษาเบงกาลีแปลว่าป่าที่สวยงาม และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก เช่น จระเข้ งู กวาง นก โดยเฉพาะเสือเบงกอลและจระเข้นักล่าที่ขึ้นชื่อ


25. Table Mountain / South Africa"อุทยานแห่งชาติ Table Mountain" ตั้งอยู่ในเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นภูเขาที่เกิดจากการยกตัวขึ้นของเปลือกโลก ต่อมาได้ผุพังและถูกกัดกร่อนโดยลมและฝน จนทำให้กลายเป็นภูเขายอดตัดรูปร่างคล้ายโต๊ะ จึงได้ชื่อว่า Table Mountain การเข้าชมสามารถทำได้ 2 ทางคือการปีนเขาขึ้นไปและการนั่งกระเช้า ที่สำคัญ บนภูเขายังมีพันธุ์ดอกไม้หายากกว่า 1,400 ชนิดอีกด้วย


26. Uluru / Australia"หินอูลูรู" เป็นชื่อภูเขาหินสีแดงสูง 348 เมตรที่ตั้งตระหง่านใกล้เมือง Alice Spring ประเทศออสเตรเลียท่ามกลางความแห้งแล้งของทะเลทราย ถือเป็นก้อนหินขนาดใหญ่ที่มีความแปลกเพราะตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้สถานที่นี้ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอะบอริจิน ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณ 400,000 คน


27. Vesuvius / Italyแทบไม่มีใครในโลกไม่เคยได้ยินชื่อ "ภูเขาไฟวิสุเวียส" ที่ตั้งอยู่ใกล้เมืองนาโปลี ประเทศอิตาลี เพราะเป็นภูเขาไฟอายุ 25,000 ปีที่ยังไม่ดับแห่งเดียวในทวีปยุโรปแผ่นดินใหญ่  สูงถึง1,281 เมตรปากปล่องมีเส้นรอบวง 1,400 เมตร และลึก 216 เมตร การระเบิดครั้งสำคัญเกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 79 เถ้าถ่านและลาวาได้ไหลลงมาทับถมเมืองปอมเปอีทั้งเมืองที่กำลังอยู่ในยุครุ่งเรืองให้จมหายวับภายในพริบตา


28. Yushan / Taiwan"ยอดเขายูชาน" ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติยูชานของไต้หวัน ส่วนมากมักเป็นที่รู้จักในชื่อของภูเขามังกรหยก มีความสูง 3,952 เมตรจากระดับน้ำทะเลและถือเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในไต้หวัน ขึ้นชื่อในเรื่องของระบบนิเวศที่ยังคงความสมบูรณ์เอาไว้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ยอดเขาจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะหนาเหมือนกับแสงของแก้วที่ส่องสว่าง


         และนั่นก็คือ 28 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย น้องๆ รู้จักกันกี่ที่เอ่ย ? พี่เป้ ขอสารภาพเลยว่า บางที่เนี่ยแทบไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำอะ = ="
         เอาล่ะ หลังจากเห็นหน้าเห็นตาทั้ง 28 ที่ที่เข้ารอบมาแล้ว น้องๆ ลองเลือกไว้ในใจ 7 ที่ และมาลงคะแนนให้กับ 7 ที่นั้นดีกว่า !

1. ก่อนอื่นเลย ให้เข้าไปที่ www.new7wonders.com และเลือกภาษาอังกฤษ (หรือภาษาอื่นๆ ที่ตัวเองถนัด)
2. จากนั้น ให้ติ๊กเลือก 7 สิ่งมหัศจรรย์ธรรมชาติของโลกยุคใหม่ที่ต้องการโหวต
3. กรอกข้อมูลส่วนตัว โดยเฉพาะอีเมลที่ใช้นั้นต้องเป็นอีเมลที่ใช้ได้จริง เพราะทางเว็บไซต์จะส่งอีเมลมายืนยัน
4. รอรับอีเมลจากทางเว็บ (อย่าลืมเปิดดูในเมลขยะด้วย) คลิกเพื่อยืนยันการโหวตของเราด้วยค่ะ

เป็นอันเสร็จสิ้น และแล้วเราก็ได้ใช้สิทธิ์ในพลเมืองของโลกแล้ว ว้าวววว !
         สำหรับคะแนนตอนนี้ ที่นำลิ่วมาอันดับ 1 แบบคงที่นั่นก็คือ เกาะเชจู เกาหลีใต้ เพราะแอบได้ยินมาว่า ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งให้หนุ่ม JYJ (แจจุง ยูชอน จุนซู) เป็นทูตประชาสัมพันธ์ แฟนๆ เลยทุ่มโหวตให้แบบสุดตัว .... เอาล่ะค่ะ อย่านอนหลับทับสิทธิ์ รีบเข้าไปโหวตกันได้ที่ โหวตเสร็จแล้ว มาบอก ที่คอมเม้นท์ด้านล่างด้วยนะคะว่าน้องๆ โหวตให้ที่ไหนบ้าง ส่วนของ พี่เป้ ก็ตามด้านล่างนี้เลย             
     

- Angel Falls ส่วนตัวชอบน้ำตกอยู่แล้ว ชอบตรงที่น้ำตกสูงมาก ดังนั้นน้ำจึงระเหยเป็นไอก่อนตกถึงพื้น ดูอัศจรรย์มากๆ เลย
- Black Forest นี่ก็ชอบเหมือนกันค่ะ เคยได้ยินจากคนที่เคยไปมาว่า ด้านนอกจะมืดๆ น่ากลัว แต่ด้านในสวยมากและมีอะไรน่าสนใจเยอะมาก
- Dead Sea ส่วนนี่บอกได้เลยว่าเป็นความฝันว่าซักครั้งจะต้องไปนอนแช่ในทะเลนี้ให้ได้ อยากไปจอร์แดนมากๆ
- Grand Canyon เวลาเห็นรูปแกรนด์แคนยอนทีไร จะนึกในใจตลอดว่า ธรรมชาตินี่เจ๋งเนาะ
- Great Barrier Reef นี่ก็ฝังใจตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ เพราะเจอชื่อนี้บ่อยมากในวิชาสังคม แต่ก็ชอบมากๆ เพราะสวยจริงๆ
- Milford Sound เคยอ่านบล็อกของคนที่ไปเที่ยวที่นี่มา คือสวยมากๆๆๆๆๆๆๆ จริงๆ น่าไปสุดๆ
- Mud Volcanoes ชอบเพราะแปลกดีค่ะ 5555


อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/content/studyabroad/25616/-%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2-7-%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A8%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%84%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88.php#ixzz1U55jfepM